top of page

ธุรกิจ ไร้อนาคต (Sunset Industry)


ในโลกธุรกิจ การเข้าเทรนด์ และเข้า - ออก ถูกจังหวะ ย่อมสร้างความได้เปรียบให้แก่นักธุรกิจเป็นอย่างมาก


บทความนี้ จะพูดถึง ธุรกิจ ไร้อนาคต หรือที่เรียกว่า Sunset Industry ว่ามีอะไรบ้าง ในความหมายของคำนี้ ก็มีตั้งแต่ ธุรกิจที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมลดลง ตลาดผู้บริโภคเปลี่ยนรูปไปสู่ ธุรกิจอีกรูปแบบหนึ่ง หรือ ถูกทดแทนด้วย ธุรกิจอื่น ไปจนถึง ธุรกิจ ที่ต้องปิดตัวลงไปในอนาคตอันใกล้ หรืออาจกำลังจะพับฐานไปแล้วก็ได้


ขอย้อนอดีตก่อนครับว่า มีธุรกิจอะไรบ้าง ที่ได้ล้มหายตายจากไปจากตลาดปัจจุบันแล้ว ลองนึกๆ ดู ก็มีหลายธุรกิจ เหมือนกัน (อาจไม่ได้ถึงกับ ไม่มีให้เห็นเลยนะครับ เพียงแต่ว่า แทบจะไม่มีให้เห็น หรือกำลังจะไปในไม่ช้าไม่มาน)


ธุรกิจ เกมกด เกมคอมพิวเตอร์

ธุรกิจ ทีวีขนาดจิ๋ว (ที่เห็นแม่ค้าตามตลาดดู ดูในรถ หรือ พวกคนในหอพักเอาไว้ดู)

ธุรกิจ ดิกชั่นนารี อิเล็คทรอนิคส์

ธุรกิจ ร้านนาฬิกาตั้งโต๊ะ นาฬิกาปลุก

ธุรกิจ ร้านขายนาฬิกาข้อมือ นอกห้าง

ธุรกิจ ร้านเช่าหนัง วีดีโอ ร้านขายเทปเพลง

ธุรกิจ ร้านขายของเล่นเด็ก นอกห้าง

ธุรกิจ โทรศัพท์มือถือธรรมดา (Feature Phone)

ธุรกิจ เครื่องเล่น เอ็มพี 3 (แม้กระทั่ง iPod ยังแทบจะเลิกผลิต ไม่มีรุ่นใหม่ออกมาเลย)

ธุรกิจ กล้องถ่ายรูป กล้องดิจิตอล กล้องวีดีโอ

ธุรกิจ เสารับสัญญาณทีวี (เปลี่ยนเป็น จานรับสัญญาณดาวเทียม และกล่อง Box Set)


เป็นต้น


คราวนี้ลองมาดูกันว่า แล้วยังมีธุรกิจอะไรอีก ที่เข้าข่ายว่าเป็น ธุรกิจ ไร้อนาคต

  1. ส่วนตัวมองว่า ธุรกิจ บาร์เบอร์ (ร้านตัดผมชาย) เพราะคนรุ่นหลังๆ หันไปเข้าร้าน ซาลอนกันหมดแล้ว

  2. ธุรกิจค่ายเพลง ต้องผันตัวเองไปอยู่ใน Streaming Platform ไม่ได้มาจาก การออกอัลบั้มแล้ว แต่จะทำเพลงเป็นซิงเกิ้ล ไม่กี่เพลง และรายได้จะมาจากการโหลดฟัง แบบเหมาจ่ายรายเดือน

  3. ธุรกิจร้านค้าปลีกแบบที่เรียกว่า Retail Store จะอยู่ได้เพียงกลุ่มที่ แบรนด์แข็งๆ อย่างเช่น แบรนด์ระดับโลก นอกนั้นจะกลายร่างไปอยู่ในรูปแบบ Shop in Shop ในห้างสรรพสินค้าแทน

  4. ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า Hypermarket จะค่อยๆ หยุด แล้วหันไปพัฒนาแบบ Small Format เป็นหลัก และสร้างจุดเด่นของร้าน เช่น เน้น Food, Beauty, Health, IT หรือ สินค้าประเภท DIY เป็นต้น

  5. ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว จะลดความนิยม เพราะคนหันมาทำอาหารแบบสำเร็จรูปมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เฟอร์นิเจอร์ทั่วไป จะเป็บแบบ DIY มากขึ้นเรื่อยๆ

  6. ธุรกิจทัวร์รายย่อย จะเล็กลงเรื่อยๆ เพราะคนจะจัดการเองทั้งหมด ด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า

  7. ธุรกิจสื่อใหญ่ๆ โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์ จะลดบทบาทลง ด้วยการมาทดแทนของ E Magazine ทำให้การซื้อสื่อสิ่งพิมพ์เป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์น้อยลง และไม่คุ้มค่าโฆษณา

  8. ธุรกิจ เอเจนซี่โฆษณา จะปรับตัวเป็น Digital Media House เพราะการเติบโตและความนิยมในโซเชียล มีเดีย จะมาแทนที่ สื่อใหญ่ต่างๆ ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามากหลายเท่าตัว

  9. ธุรกิจ สอนคอมพิวเตอร์ สอนภาษาอังกฤษ จะปรับตัวเองไปอยู่บน ออนไลน์ แทน

ที่พอนึกออกมีแค่นี้ แต่เชื่อว่าจะมีมากกว่านี้แน่นอน..

แล้วคุณล่ะ กำลังอยู่ในธุรกิจไหนในกลุ่มนี้หรือไม่ หรือกำลังคิดจะทำอยู่รึเปล่า? ถ้าใช่ ผมแนะนำให้ ลองพิจารณา ทางเลือกอื่นด้วยครับ ไม่งั้นเสี่ยง !!!

Featured Posts
Recent Posts
Search By Tags
No tags yet.
Follow Us
  • Facebook Classic
  • Twitter Classic
  • Google Classic
bottom of page