top of page

อากี เป็ดพะโล้สู้ชีวิต..


เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายท่านคงได้ยินเรื่องราวของผู้ชายที่ชื่อ อากี ปัจจุบันเปิดร้านขายเป็ดพะโล้ สูตรฮ่องกง อยู่ที่ซอย คู้บอน คนที่ไม่ทราบเรื่องราว ก็อาจนึกว่าเป็นคนเปิดร้านขายอาหารธรรมดาๆ แต่ในโลกโซเชียลตอนนี้ คนๆ นี้กำลังดังเพราะ เรื่องราวในอดีตของเค้า


ทำไมถึงบอกว่ากำลังดัง แล้วเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร แล้วมันจะมีประโยชน์อย่างไรกับเรา ผมอยากให้อ่านบทความนี้ให้จบครับ และจะได้คำตอบ


อากี เป็นนักธุรกิจฮ่องกง ขายอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้า เมื่อสัก 10 - 20 ปีก่อน เช่นพวก กล้องถ่ายรูป (ฟิล์ม) และพวกเครื่องเสียง ขายดีมากครับ ลูกค้าของอากี 90% เป็นคนไทย พวกพ่อค้าแม่ค้าคนไทย บินไปดูและซื้อสินค้าจากร้าน อากี มากมาย.. จนธุรกิจอากีรุ่งเรืองมาก เรียกได้ว่า เซลส์บริษัทไหน ก็ต้องเข้าร้านอากี และเสนอขายสินค้าให้ทุกราย ร้านอากีจึงถือเป็นรายใหญ่มากรายหนึ่งเลยทีเดียว


แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร อย่างที่หลายคนทราบก็คือ ความต้องการของธุรกิจ กล้องถ่ายรูป และเครื่องเสียง เปลี่ยนแปลงไป เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยน.. กล้องถ่ายรูป เปลี่ยนจาก "กล้องฟิล์ม" มาเป็น "กล้องดิจิตอล" เครื่องเสียงเปลี่ยนจาก "ซาวน์อะเบ้าท์" หรือ "วอล์คแมน" มาเป็น "MP 3" และ "iPod" ผมเองก็เข้าใจว่าสาเหตุของการล่มสลายของร้านอากี มาจากเรื่องเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไป เช่นคนอื่น.. แต่ข้อเท็จจริง เมื่อมาได้ฟังการสัมภาษณ์ อากี ในรายการ เจาะข่าวเด่น ของคุณสรยุทธ์ แล้ว จึงทราบว่า มันไม่ใช่ !!


อากี ไม่ได้เจ๊งเพราะ หากแต่เป็นเพราะ เทคโนโลยี ที่เปลี่ยนไป.. แล้วอะไรล่ะ คือเหตุผลที่แท้จริง ที่อากีเจ๊ง ผมสรุปได้ 3 ประเด็นดังนี้

  • เจ๊งเพราะไม่เข้าใจ หรือไม่ยอมรับใน New Business Model เพราะเจ้าเทคโนโลยีใหม่ มาพร้อมโมเดลธุรกิจ ที่ %Margin หรือกำไรต่อหน่วยต่ำ แตกต่างจาก สิ่งที่ อากีได้รับจากสินค้าหลักเดิมในตอนนั้น นั่นทำให้ อากี ไม่สนใจ สินค้าเทคโนโลยีใหม่ เพราะมองว่า กำไรตัวเองจะหายไปเยอะ ใครล่ะครับจะโง่ไปขายสินค้าที่ให้กำไรน้อย แทนที่สินค้าที่ให้กำไรเยอะ จริงมั้ยครับ​

  • เจ๊งเพราะมั่นใจกับการบริหารของตัวเอง ที่ว่าสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทุกรูปแบบ เช่นมีสินค้าให้เลือกมากมาย ไม่มีก็พยายามหามาให้ ขายในราคาที่ไม่แพง พูดจาสุภาพเรียบร้อย รับเปลี่ยน/คืนสินค้า ผมบอกได้เลยว่า สุดๆ เลยครับ ลูกค้าติดอากีมากมาย จนเค้านึกไม่ออกว่า จะมีวันที่ลูกค้าหันไปซื้อร้านอื่น ได้อย่างไร ทำให้เค้าชะล่าใจอย่างมาก

  • เจ๊งเพราะนำเงินไปลงทุนในสต็อกสินค้า เพื่อรองรับลูกค้าทั้งปลีก-ส่ง เกือบทั้งหมด และแถมเป็นสินค้าเทคโนโลยีเก่าเป็นหลักด้วย ไม่พยายามกระจายสัดส่วนไปในสินค้าเทคโนโลยีใหม่เพิ่มขึ้น เพราะมั่นใจว่าตัวเองขายได้ มีลูกค้าอยู่ในมือเยอะ แม้เพื่อนฝูงจะแนะนำให้ หาธุรกิจอื่นทำ เพื่อกระจายความเสี่ยง เพราะธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี มันไม่แน่นอน เค้าก็ยังประมาท ไม่ทำตา

เห็นไหมละครับ การทำธุรกิจ ต้องมีสติ และไม่หลงในสิ่งที่เป็นปัจจุบัน แต่ให้วิเคราะห์หาเหตุผลในทุกๆ เรื่องหลัก เคล็ดลับที่อยากแนะนำคนทำธุรกิจทุกท่านก็คือ ถ้ามีสิ่งต่างๆ เข้ามากระทบในธุรกิจ แล้วต้องให้เราคิดจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม


อย่าตั้งคำถามแค่ว่า ทำไมต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง แต่ให้ตั้งคำถามอีกข้อด้วยว่า ทำไมถึงจะไม่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง? สถานการณ์ปัจจุบันดีแล้วหรือ มันมีท่าทีดีขึ้นมา หรือแย่ลงในระยะหลังที่ผ่านมา มีโอกาสเกิดปัญหาอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ แล้วมันจะแย่ลงแค่ไหน..


ถ้าได้คำตอบทั้ง 2 ข้อ คือ ทำไมต้องเปลี่ยน กับ ทำไมถึงจะไม่เปลี่ยน? แล้วคุณจะเห็นภาพมากขึ้น เพราะอย่าว่าแต่ ร้านอากีเลยที่เจ๊ง หลายบริษัทใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Blackberry, Motorola, Nokia, HTCแทบล่มสลายก็เพราะเหตุผลคล้ายๆ กับความคิดของอากี นี่แหละ..


Featured Posts
Recent Posts
Search By Tags
No tags yet.
Follow Us
  • Facebook Classic
  • Twitter Classic
  • Google Classic
bottom of page