Lifestyle Change..
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกอย่างก็คือ Lifestyle Change หรือการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของมนุษย์ ซึ่งถือเป็นผลที่เกิดจากการเปลี่ยนยุคของคน จาก Baby Boomer มา Gen X แล้วมา Gen Y และล่าสุดก็คือ Gen Z ผสานกับการเปลี่ยนแปลงในเรื่อง Technology จากที่กล่าวมาแล้วในโพสต์ก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของคนแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพธุรกิจ และเศรษฐกิจในปัจจบัน และในอนาคตข้างหน้าอีกหลายสิบปีเลยทีเดียว
แล้วไลฟ์สไตล์มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร อะไรบ้างที่มองเห็นได้ชัดๆ แล้วมันจะส่งผลกระทบอย่างไรกับเรา
ผมจะค่อยๆ ฉายภาพให้เห็นทีละอย่างครับ
ไลฟ์สไตล์ที่มีความเป็นคนเมืองมากขึ้น ทำให้ความเป็นอยู่ของผู้คนที่เคยเรียบง่ายในอดีต (Baby Boomer) เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง คนมีการศึกษามากขึ้น คนหันมาทำงานในองค์กร บริษัทต่างๆ มากขึ้น (Gen X) มาสู่การทำอาชีพอิสระ ธุรกิจส่วนตัว (Gen Y) มากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งทำให้ธุรกิจข้อมูล Infopreneur ในรูปแบบต่างๆ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ, Ebook, Audio Book, สัมมนา, On Line Education Provider, Membership Website
การแยกครอบครัวออกมา ทำให้สังคมครอบครัวเป็นหน่วยย่อยมากขึ้น ทำให้ความต้องการในเรื่องที่อยู่อาศัย เติบโตเป็นอย่างมากในรอบ 20 ปีมานี้ จากบ้านเดี่ยว มาสู่ ทาวน์เฮ้าส์ และก็คอนโดมิเนียมใน 10 ปีหลังมานี้
วิถีชีวิตการเข้าสังคม มีมากขึ้น และเปลี่ยนจากการนัดพบปะ สังสรรค์ จนกลายมาเป็น การพบปะในโลกโซเชียล ที่เรียกว่า สังคมก้มหน้า ทำให้คนใกล้กัน เหมือนไกลกัน และคนไกลกัน คนละซีกโลก กลับใกล้กันเพียงแค่ปลายนิ้ว.. ทำให้เรามีเพื่อนได้ง่าย เร็ว และมากกว่าเดิมอย่างมหาศาล ทำให้กำแพงชนชั้นลดลงไปมากมาย เพราะเราสามารถเป็นเพื่อนได้ทั้ง ดารา เซเลบ นักธุรกิจ เศรษฐี ชาวต่างประเทศ ได้อย่างง่ายดาย
ความต้องการในเรื่องความสะดวก ในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเข้าถึงข้อมูล (Internet) การเข้าถึงการติดต่อสื่อสาร (Social Media, Email, Internet Phone, Smartphone & Tablet & Computer) ความสะดวกในการซื้อสินค้าและบริการ (Website, App, Payment, Delivery) ทั้งหมดนี้ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ต่ำลงเรื่อยๆ ในขณะที่ขีดความสามารถและประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ แบบสวนทางกับค่าใช้จ่าย
ความต้องการในสินค้าและบริการที่หลากหลาย อันเนื่องมาจาก ข้อมูลที่นำเสนอ การเข้าถึงผู้บริโภคที่ทำได้ง่าย รวดเร็ว และทำได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป แบบหน้ามือเป็นหลังมือ เลยก็ว่าได้
ความต้องการในเรื่อง การพักผ่อน ท่องเที่ยว ก็เปลี่ยนไปอย่างมากเช่นกัน เมื่อก่อน การท่องเที่ยว จะอิงกับธุรกิจทัวร์ ค่อนข้างมาก เพราะการขาดข้อมูล ทำให้ผู้บริโภคต้องพึ่งพา ความรู้ความชำนาญของธุรกิจทัวร์ แต่มาในปัจจุบัน จะไปเที่ยว ก็สามารถค้นหาข้อมูลจาก อินเตอร์เน็ต ดูเว็บไซต์ เว็บบอร์ด ที่รีวิว การท่องเที่ยวของแต่ละแห่ง แต่ละประเทศ มากมาย ความสะดวกในการเลือกซื้อ ตั๋วเครื่องบิน ในหลายระดับราคาและสายการบิน โรงแรม ที่พัก จากคนกลาง เช่น Agoda หรือ Booking.com ตลอดจนถึงบริการที่พักส่วนตัวผ่านระบบที่เรียกว่า AirBnB ก็เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นอย่างมาก การซื้อบริการท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น บริการรถรับส่ง บริการเช่ารถ บริการพาเที่ยว เพิ่มเติมก็ทำได้แสนง่ายและราคาแสนถูก ทำให้ผู้บริโภคหันมาพักผ่อน ท่องเที่ยวมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
ความสนใจในเรื่องสุขภาพ ทำให้ธุรกิจอาหาร ต้องวางแผนรับมือการเปลี่ยนแปลงให้ดี โดยเฉพาะธุรกิจอาหารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น น้ำอัดลม อาหารฟาสต์ฟู้ด สแน็คบางประเภท อาหารที่มีไขมันชนิดไม่ดี ไปจนถึง ธุรกิจอาหารที่เสริมสุขภาพ เช่น Low Carb, Clean Food ไปจนถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในด้านต่างๆ รวมถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพด้านอื่น เช่น Fitness, Yoga, Sport Activities อื่นๆ เช่น การเต้น การชกมวย เป็นต้น
ความใส่ใจเรื่องความสวยงาม ทำให้ผู้คนจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชาย หันมาใส่ใจกับการดูแล บำรุงรักษาผิว หน้า ผม และบุคลิก มากขึ้น ทำให้ธุรกิจความงาม เปลี่ยนรูปจากที่โฟกัสเฉพาะ ตลาดผู้หญิง มาสู่ตลาดผู้ชาย เปลี่ยนจากการรักษา ผู้ที่มีปัญหาด้านความงาม มาสู่การบำรุงดูแลให้ดูดีอยู่เสมอ ไปจนถึง การเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความงาม ด้วยการศัลยกรรม และเทคโนโลยีการยังยั้งความชราในทุกรูปแบบ ทำให้ตลาดความงาม เติบโตเป็นอย่างมากอย่างต่อเนื่อง
เห็นมั้ยละครับว่า วิถีชีวิตของคนเรา เปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน หลายด้านแค่ไหน แล้วส่งผลทั้งเป็น วิกฤติและโอกาส ให้กับบางคน บางกลุ่ม มากน้อย อย่างไร พอจะเห็นภาพกันแล้วใช่มั้ยครับ
ใครก็ตามที่สามารถคาดเดาอนาคตได้แม่นยำ และมีความพร้อมมากกว่า หรือเริ่มต้นเร็วกว่าอย่างเหมาะสม ย่อมทำให้ได้เปรียบในตลาดที่ตัวเองอยู่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
