Retail Landscape Change
สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี (Technology Change) และการเปลี่ยน แปลงด้านวิถีชีวิต (Lifestyle Change) ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ปรับเปลี่ยนไปอย่างมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ตลาดการค้าปลีก (Retail Lanscape) ได้ปรับเปลี่ยนจากในอดีตเป็นอย่างมาก
จากการค้าแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) เปลี่ยนมาสู่ยุคการค้าสมัยใหม่ (Modern Trade) อย่างเต็มตัวในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อซักสิบปีที่ผ่านมา ตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ก็ได้ปรับรูปแบบมา สร้างความสามารถในการแข่งขันให้ชัดเจนขึ้นด้วยการเป็นร้านค้าเฉพาะอย่าง (Category Killer) เช่น Power Buy, B2S Supersport, HomePro, Big Camera, IT City, บุญถาวร, ซีเมนต์ไทย โฮมมาร์ท เป็นต้น
จนในห้าปีหลังมานี้ ตลาดการค้าปลีกก็ได้ปรับรูปแบบไปอีก จนตอนนี้ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านค้าปลีกเพื่อสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ในแนวทางต่างๆ เช่น
เป็นแหล่งรวมสินค้าและบริการที่ครบวงจร (Community Mall) ที่ประกอบไปด้วย ร้านอาหาร, ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ธนาคาร, ร้านขายยา, ร้านชำระค่าบริการต่างๆ, ร้านขายมือถือ - ไอที, ร้านเสื้อผ้า, ซาลอน, ร้านหนังสือ เป็นต้น
เป็นร้านสะดวกซื้อ เพื่อความสะดวก รวดเร็วในการซื้อสินค้าและบริการ โดยเฉพาะกรณี ต้องการสินค้าหรือบริการแบบเร่งด่วน ร้านค้าสะดวกซื้อพวกนี้จะเน้นสินค้าที่หลากหลายครบครันมากขึ้น จะเห็นได้ว่ามีขนาดพื้นที่ใหญ่ขึ้น และหมวดหมู่สินค้าที่มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนนี้อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันนั่นเอง จะเห็นได้ว่า มีการเข้ามาในธุรกิจนี้ที่รุนแรงขึ้นมาก เช่น 7-11, Family Mart, Lotus Express, Tops Daily, Mini Big C, Lawson 108 รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อเฉพาะอย่าง เช่น Boots, Watson, Tsuharu และ Chain Pharmacy
ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น Central, Robinson, Malls หรือพวก Hypermarket ต่างๆ ก็ปรับตัวเข้ามาสู่ ธุรกิจ ออนไลน์ (On Line Business) อย่างเต็มตัว ทั้ง Website, Moblie Application รวมไปถึงการผนึกกำลังกับ On Line Pure Player เช่น Lazada เพื่อสร้างการรับรู้ และการเข้าถึงผู้บริโภคได้เร็วและง่ายมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ ทำให้ตลาดค้าปลีก และตลาด ออนไลน์ เข้ามาใกล้กันมากขึ้น เพราะผู้เล่นรายใหญ่ หันมาลงตลาด ออนไลน์ อย่างเต็มตัว ย่อมทำให้ผู้เล่นรายย่อย ที่อยู่ในตลาด ออนไลน์ ได้รับผลกระทบและต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้แข่งขันกันเองระหว่างรายย่อยกับรายย่อย อีกต่อไป
สุดท้ายคือ ตลาดค้าปลีก ในระบบเครือข่าย ก็จะได้รับการยอมรับ และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ผมมองถึงขั้นที่ว่า จะเป็น ช่องทางหลัก ช่องทางหนึ่ง ในธุรกิจต่างๆ ได้เลย รวมไปถึง จะเป็นช่องทางรอดของพวกรายย่อย อีกด้วย เพราะข้อจำกัดของ ธุรกิจรายย่อย คือ เรื่องความโดดเด่นของธุรกิจ ที่อยู่ในระดับต่ำ เพราะปัจจัย เรื่อง เงินลงทุน ทีมงาน ประสบการณ์ด้านการตลาด และการขาย ทำให้การอยู่รอดด้วยแต่ละหน่วยย่อย ทำได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
พอเห็นภาพมั้ยครับ ว่าตลาดค้าปลีก มันจะเปลี่ยนรูปแปลงร่างไปอย่างไร ในอนาคต ใครที่ถูกจริตกับช่องทางแบบไหน ก็เลือกเอาตามที่ถนัดได้เลยครับ แต่กระซิบนิดนึง ถ้าคิดจะทำแบบเดิม ลงทุนมากๆ มีค่าใช้จ่ายสูงๆ หน้าร้านสวยๆ โฆษณาผ่านสื่อใหญ่ๆ แล้วจะสำเร็จนั้น มันหมดยุคแล้วครับ..
ต่อไปผมจะมาแชร์ว่า ธูรกิจอะไรบ้าง จะอยู่ยาก อะไรจะเป็น Sunset Industry คนที่ทำงานหรือธุรกิจอยู่นั้น จะได้ปรับตัว ส่วนใครที่จะไปติดต่อใช้บริการ หรือลงทุน ก็จะได้หลีกเลี่ยงทันครับ @@
