top of page

Technology Change..



บทความนี้จะพูดถึงเรื่อง การเปลี่ยนแปลง (Change) ซึ่งแน่นอนว่าปกติแล้ว แทบทุกคนคงไม่ค่อยอยากจะเผชิญกับสิ่งนี้แน่นอน มากบ้าง น้อยบ้าง ตามบุคลิกของแต่ละคน แต่บทความจะบอกคุณเลยว่า ถึงแม้คุณไม่ชอบ แต่คุณต้องเผชิญกับมัน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหากรู้ก่อน เข้าใจมากกว่า วางแผนรับมือ หรือแม้กระทั่งฉกฉวยโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ผมฟันธงเลยว่า คุณจะเป็นคนที่หลายคนอิจฉา และจะอยู่ในจุดที่ได้เปรียบคนอื่นมหาศาล..


กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกที่กระทบต่อธุรกิจ มีด้วยกัน 3 ด้านดังนี้


  • Technology Change

  • Lifestyle Change

  • Retail Landscape Change


บทความจะแบ่งออกเป็น 3 ตอน โดยผมจะขอเริ่มจาก Technology Change เป็นลำดับแรก


ดูเผินๆ แล้วเหมือนจะไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ในสายตาคนทั่วไปเพราะถ้าพูดถึงคำว่า เทคโนโลยี แน่นอน ทุกคนคงเห็นภาพอยู่แล้วว่า มันเปลี่ยนตลอดเวลา ผ่านสินค้าหลายๆ ประเภทรอบตัวเรา แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า เทคโนโลยีมันเปลี่ยนแปลงแบบเปลี่ยนรูปไปมาก ไม่เหมือนกับแต่ก่อน ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนโทรศัพท์มือถือ ตลาดหลักจะเป็น Feature Phone โดยมีแบรนด์ โนเกีย เป็นผู้นำตลาด และผู้ท้าชิงก็จะเป็น ซัมซุง และโซนี่ อิริคสัน ต่อมา เทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือ เปลี่ยนจาก Feature Phone มาเป็น Smartphone เพราะการมาของ iPhone เมื่อปี 2007 จนมาถึงปัจจุบันโทรศัพท์มือถือไม่กี่พันบาทก็มีลักษณะเป็น Smartphone หมด ทั้ง iPhone, Galaxy, HTC, LG, Motorola, ASUS, Lenovo และเป็นโอกาสแจ้งเกิดของแบรนด์ไทยและจีนอีกมากมาย อาทิ I Mobile, Oppo, Vivo, Huawei, Cherry ดังจะเห็นได้ในรอบหลายปีที่ผ่านมา


แต่ในช่วงหลังมานี้ เทคโนโลยีมือถือ ก็ชยับชยายไปสู่ตลาด Wearable Device ที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ เช่น Gear Serie, Moto 360, LG Watch, Pepple และล่าสุดคือ Apple Watch ที่เพิ่งลงมาเล่นตลาดนี้เต็มตัว แม้มาทีหลังแต่มาอย่างน่ากลัวมากเลย ขอบอก..


ในส่วนที่เป็น Big Screen Device ก็เขยิบไปแย่งตลาด Notebook ได้อย่างชัดเจน ด้วยการมาของ iPad เมื่อ 5-6 ก่อน ตามด้วย Tablet Device ของแบรนด์ต่างๆ ก็พาเหรดกันมาสร้างตลาดใน Segment นี้ทำให้ตลาด Segment เติบโตมากและไปกินส่วนแบ่งตลาด Notebook และ Netbook อย่างมหาศาล จนแม้กระทั่ง Microsoft ยังต้องออกสินค้าแนว Tablet มาคือ Surface RT, Surface และ Surface Pro เพื่อมาต่อสู้ เห็นภาพไหมครับ เทคโนโลยีมันเปลี่ยนรูปไปแล้ว มันกลืนกินกันหมด ไม่ได้แยกประเภทสินค้าแบบตลาดใครตลาดมันอีกต่อไป


เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นได้ว่า มือถือ มันเป็นมากกว่ามือถือ ดังนั้นตลาดพวก Music Player เช่น MP3 หรือ iPod ก็ถูกกลืนจนเราไม่เห็นเครื่องเล่น MP3 อีกแล้ว แม้กระทั่ง iPod ก็เชื่อว่าต้องปิดตัวไปในที่สุด เพราะไม่ได้รับความสนใจ หรือตอบรับจากผู้บริโภค


ตลาดกล้องดิจิตอล ที่เคยกลืนตลาดกล้องฟิล์มไป ถึงวันนี้ก็เหมือนกรรมตามสนอง เพราะกำลังโดนกล้องโทรศัพท์มือถือกลืนตลาดต่ออีกที จนสามารถเห็นได้ว่าร้านจำหน่ายกล้องถ่ายรูป มีการวางจำหน่ายโทรศัพท์มือถือด้วยเช่นกัน เมื่อก่อนโน้นแต่ละบ้านต้องซื้อกล้องดิจิตอลกันทุกครัวเรือนมาเป็นแทบจะทุกคนต้องมีกล้องดิจิตอล จนตอนนี้ต้องถามว่า นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้ซื้อกล้องดิจิตอลอันใหม่ และนานแค่ไหนแล้วที่เราหยิบกล้องดิจิตอลมาใช้ หรือเราไม่เคยหยิบมันมาใช้อีกเลย..


ตลาดสินค้าพวก PDA เช่น Palm หรือ Blackberry ก็ไม่ได้กลับมาเกิดอีกเลย เพราะโทรศัพท์มือถือเองก็มีฟังก์ชันนี้ และทำได้ดีเสียด้วย โดยมือถือประเภท Phablet ที่มีหน้าจอใหญ่กว่า 5.5 นิ้ว เช่น Note Serie ของซัมซุง ที่มาพร้อมปากกาสารพัดประโยชน์ และแบรนด์อื่นๆ ที่เป็นทางเลือกได้ โดยพวกปากกา Smart Pen ก็ได้แจ้งเกิดธุรกิจ เพราะเหตุนี้เช่นกัน


ตลาด Notebook ก็เซไปเยอะเลย จากการทำตลาด Macbook ใน Serie ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Macbook Air, Macbook Pro และล่าสุดการกลับมาใหม่ของ Macbook ชนิดที่เรียกได้ว่าบางเฉียบ และการเติบโตของตลาด Tablet Device นำโดย iPad, iPad Air และล่าสุด iPad Pro ที่มีหน้าจอระดับเดียวกับ Notebook เลย อีกทั้งยังมี Tablet แบรนด์ต่างๆ อีกมากมาย ทำให้ตลาด Notebook อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีเอาเสียเลย แนวโน้มเป็นขาลงมาสักพักแล้ว ถ้าตลาด Notebook ในตลาดส่วนธุรกิจ ถูกท้าชิงโดย Macbook เมื่อไหร่ เมื่อนั้น Notebook อาจมีสภาพไม่ต่างจากเครื่องเล่น MP3, กล้องดิจิตอล หรือ PDA ก็ว่าได้


ล่าสุดตลาดนาฬิกา ก็กำลังถูกเทคโนโลยีท้าทายครั้งสำคัญด้วยวิวัฒนาการของ Wearable Device ที่ถูกพัฒนาขีดความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ผู้บริโภคเร่ิมมีความนิยมใส่นาฬิกาเพราะเหตุผล มากกว่าอารมณ์ จากการแข่งขันกันด้าน ดีไซน์ แบรนด์ เพื่อบ่งบอกฐานะ หรือรสนิยม ดังเช่นแต่ก่อน การมาของ Apple Watch ที่เริ่มออกกลยุทธ์ผสานระหว่าง เทคโนโลยีกับแฟชั่น ด้วยการดีไซน์สายนาฬิกา ออกมาหลายรูปแบบ และล่าสุดจับมือกับ Hermes แบรนด์แฟชั่นระดับโลก ออกแบบสายนาฬิกาให้กับ Apple Watch ซึ่งเท่ากับเป็นการขย่มตลาดอุตสาหกรรมนาฬิกาอย่างชัดเจนต้องคอยดูต่อไปว่า ตลาดนาฬิกาจะเป็นเช่นตลาดสินค้าประเภทอื่นๆ ก่อนหน้านี้หรือไม่ โดยส่วนตัวผมค่อนข้างมั่นใจว่า กระทบมากแน่นอน..


นี่ยังไม่นับตลาดเว็บไซต์ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ต้องปรับตัวมากมายเช่นกัน เพราะแนวโน้มการเติบโตของ Application ก็มาแรงพร้อมๆ กับการเติบโตของ Smartphone ทั้งฟาก iOS และ Andriod เรียกได้ว่าเหนื่อยกันทั้ง Hardware และ Software กันเลยทีเดียว โดยมีเครื่องพิสูจน์ที่ว่าแม้กระทั่งยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ยังต้องลงไปเล่นตลาด Tablet ใน iPad Pro ตลาดเกมคอมพิวเตอร์ก็ผันตัวไปอยู่ในรูปแบบ Game Application ทำให้เครื่องเล่นเกมที่เคยได้รับความนิยามอย่าง Play Station, Wii, Nintendo แทบจะตายไปจากตลาดเลยนั่นเอง


การมอง "การเปลี่นแปลงของเทคโนโลยี" ให้ออก และจับกระแสก่อนก็เท่ากับว่าคุณได้กำความได้เปรียบ เอาไว้ในมือแล้วนั่นเอง @@

Featured Posts
Recent Posts
Search By Tags
No tags yet.
Follow Us
  • Facebook Classic
  • Twitter Classic
  • Google Classic
bottom of page