Big Move From Apple

เมื่อคืนวันก่อน Apple มีงานเปิดตัวสินค้าใหม่ หลายอย่างเลย เรียกได้ว่า ค่อนข้างเป็น Big Move ในวงการ IT เลยก็ว่าได้

1) เริ่มต้นด้วย การสานความต่อเนื่องของ Apple Watch ด้วยกลยุทธ์ 2 อัน

• ร่วมพัฒนา 3rd Application ที่สามารถใช้บน Apple Watch ได้อย่างน่าสนใจ ทาง Apple เคลมว่ามี Watch Application แล้วมากกว่า 10,000 app !! โดยดูเหมือนทาง Apple จะเน้นไปที่ app พวกที่ เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ และสุขภาพเป็นหลัก

• ร่วมกับ fashion designer ออกแบบสายนาฬิกา โดยที่นำเสนอในงานก็คือ แบรนด์ Hermes ซึ่งเป็น สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ IT Gadget ประเภท wearable device อย่าง Appl Watch ได้อย่าง น่าสนใจ ทั้งในเรื่องประโยชน์ในด้าน แฟชั่น และ ภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์

2) ต่อมาคือ Big Thing of tablet device ด้วย iPad Pro ที่มีหน้าจอถึง 12.9 นิ้ว ทำไมผมถึงพูดเช่นนี้ เพราะเดิมที ตลาด Tablet จะมีหน้าจอประมาณ 9.7 – 10.1 น้ิว ซึ่ง iPad เป็นผู้ครองความได้เปรียบ ในตลาดนี้ได้อย่างชัดเจน และได้ออก iPad Mini เพื่อตอบโจทย์เรื่องความสะดวกในการพกพาที่ดีกว่า iPad ในขณะที่ iPad ขนาดปกติ ก็เน้นในเรื่องความเบาและบาง เพื่อแก้โจทย์ ความสะดวกในการพกพาเช่นกัน

แต่การที่ Apple ออก iPad Pro หน้าจอ 12.9 นิ้ว มันช่างสวนทางกับ กลยุทธ์การตลาดของ iPad ใน 2-3 ปีที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง คราวต่อไปผมจะแชร์มุมมองที่มีต่อการออกเจ้า iPad Pro ของผมให้ฟัง

3) อีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่จัดว่าเป็น Big Move ของ Apple ก็คือ การเข้าไปปฏิวัติอุตสาหกรรมทีวีอย่างเต็ม รูปแบบ ด้วย Apple TV ที่พัฒนารูปแบบการใช้งานได้ไกลกว่า Apple TV เดิมมากๆ

เพราะ Apple TV ตัวใหม่นี้ มาในรูปแบบ app base TV รันด้วย tvOS มี features เดิมๆ ของ Apple TV ครบครันแล้ว ยังมี App Store ที่สามารถโหลด app มาเพิ่มเติมได้ รอเพียงแค่ developers ต่างๆ พัฒนามาเท่านั้นเอง นอกจากนั้น ยังใส่ Siri เข้ามารองรับการสั่งงานด้วยเสียง และเพื่อความสะดวก ในการค้นหาข้อมูลที่เราต้องการได้อย่างง่ายดาย พร้อมด้วย controller ที่มี Touch Surface สำหรับ การเลื่อน cursor ได้สะดวกรวดเร็ว และตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดีมากอีกด้วย

4) สุดท้ายก็คือการพัฒนาที่มากขึ้นของ iPhone minorchange สำหรับ iPhone 6S และ 6S Plus ที่ไม่ได้มาแค่การปรับเปลี่ยนนิดหน่อย เช่นที่ผ่านมา คราวนี้มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงมากมาย เช่น

• Chip A9 ที่ประมวลผล เร็วกว่าเดิม 70% ในส่วนของ CPU และ เร็วขึ้น 90% ในส่วนของ GPU

• หน้าจอที่แข็งแรงทนทานมากกว่า smartphone ทุกรุ่นในตลาด พร้อมด้วย 3D Touch ที่รองรับ การสั่งงานที่แตกต่างกัน เมื่อสัมผัสหน้าจอด้วยน้ำหนักกดที่ต่างกัน

• Touch ID ที่ทำงานได้ไวกว่าเดิม

• Connectivity ที่รวดเร็วขึ้น 2 เท่า สำหรับ WIFI และ LTE

• OS9 User Interface Experience

• iSight camera ด้วยกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลระดับ HD ที่มาพร้อม retina flash และ กล้องหลังระดับ 12 ล้านพิกเซล ที่รองรับความละเอียดระดับ 4K และฟังก์ชั่น Live Photo !!

• สีใหม่ Rose Gold (ชมพูทอง)

งาน Apple ครั้งนี้ ผมมองว่าค่อนข้างจัดเต็ม และเผยให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นในทิศทางที่ชัดเจนที่ Apple กำลังจะไป ต้องมาลองดูต่อไปครับ ว่า คู่แข่งอย่าง Samsung จะปรับกลยุทธ์เพื่อต่อสู้ กับสงครามครั้งนี้อย่างไร??