top of page

ตัดราคากัน ใครได้ ใครเสียประโยชน์??

โดยทั่วไป คนธุรกิจทั่วไปมักมีหลักคิดที่จะทำ 2 สิ่งดังต่อไปนี้ โดยเฉพาะเมื่อเจอภาวะการแข่งขัน ที่เข้มข้นและรุนแรง คือ

  • ตัดราคา เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และแย่งยอดขายจากคู่แข่ง

  • เลียนแบบ โดยการออกสินค้าที่คล้ายกันกับสินค้าที่ขายดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย

การทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำทั้ง 2 สิ่งนี้ ว่ากันตามจริง ก็ไม่ได้ผิดหรอกครับ เพราะ ทุกธุรกิจ ก็ต้องการอยู่รอด และเติบโต เพียงแต่ว่า ควรตั้งคำถามกับตัวเอง อย่างน้อย 2 คำถามคือ

  • มันมีวิธีการอื่นอีกไหม ที่ไม่ใช่ 2 วิธีการนี้ ที่จะสามารถนำพาธุรกิจให้อยู่รอด และแข่งขันได้

  • วิธีการ 2 อันนี้ เมื่อทำแล้ว ระยะยาว ธุรกิจเรามันอยู่รอด และเติบโตได้จริงหรือ

เพราะการเริ่มต้นด้วยการตัดราคามันง่ายมาก แล้วก็ไม่รู้ว่า การตัดราคามันอยู่ในโครโมโซมคู่ไหน เพราะทุกคนที่ทำธุรกิจ จะคิดและเข้าใจเรื่อง การตัดราคา โดยไม่ต้องไปร่ำเรียนจากที่ไหนเลย แต่เมื่อมันง่ายแล้ว นั่นหมายถึง ใครๆ ก็ทำได้ เราทำได้ คู่แข่งก็ทำได้เช่นกัน แล้วลองนั่งนึกภาพดูว่า ต่างคนต่างทำ แล้วใครล่ะ เสียประโยชน์ ?? ชัดเจนไม่ต้องคิดให้เมื่อยตุ้ม ก็ทั้งเราและคู่แข่งนั่นแหละ

แล้วใครกันที่ได้ประโยชน์?? ทุกคนคงคิดว่า ก็คือ ลูกค้าไง ไม่เห็นยากเลย ข้อนี้ผมขอแย้งนะครับ เพราะอะไร ทำไมผมถึงไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่ว่า ลูกค้าได้ประโยชน์ จากการตัดราคา ผมมีเหตุผลอยู่ 2-3 ประการ

  • เพราะการตัดราคา เมื่อถึงจุดหนึ่ง ราคาก็จะนิ่ง และจะเป็นราคาที่หาซื้อได้ไม่ยาก ทำให้ลูกค้า ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองซื้อสินค้าได้ถูกจริงๆ เพราะมันจะกลายเป็นราคาที่เห็นได้ทั่วไป

  • หากการตัดราคามีความรุนแรงขึ้น ลูกค้าอาจได้รับสินค้าที่ด้อยคุณภาพไป หรือได้รับการ บริการที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะผู้ขาย อาจมีความจำเป็นต้องลดคุณภาพ หรือการบริการ บางอย่างออกไป เพื่อให้สามารถขายในราคาที่ถูกนั้นได้และยังคงมีกำไรเพียงพอต่อการทำ ธุรกิจต่อไป

  • บางสินค้า บางแบรนด์ ลูกค้ารู้สึกต่อแบรนด์ ในด้าน ความมีรสนิยม หรูหรา มีระดับ หากตัด ราคากันจน ราคาถูกมากเกินไป ความรู้สึกดีต่อแบรนด์นั้นๆ อาจเสียไป จนกระทั่งรู้สึกไม่ดีต่อ สินค้าแบรนด์นั้นๆ หรือพานจะเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่นเลยด้วยซ้ำ

เห็นมั้ยครับว่า การตัดราคา ก็ไม่ได้ทำให้ลูกค้ารู้สึกดี หรือรู้สึกว่าได้อะไรมากกว่าเสมอไป แถมเรา และคู่แข่ง ยังเสียผลประโยชน์ มากขึ้นซะด้วยซ้ำ เพราะว่า ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการทำธุรกิจ ก็ไม่ได้ ลดลงเลย มิหนำซ้ำ ยังมักจะเพิ่มขึ้น เพราะเราต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้เจ้าโปรโมชั่น หรือ ลดราคา นั้นๆ อีกด้วย

ซึ่งจะยิ่งทำให้ เปอร์เซ็นต์กำไรของเราลดลงอย่างไม่ต้องสงสัย และถ้าเราไม่ได้ เป็นผู้นำตลาด ที่สามารถผลิตสินค้านั้นได้เป็นจำนวนมากและมีต้นทุนสินค้าถูก การไป ลดราคา ยิ่งเท่ากับว่า ไปแหย่ยักษ์หลับให้ตื่นมาฆ่าตัวเราเองตายนั่นเอง

Featured Posts
Recent Posts
Search By Tags
No tags yet.
Follow Us
  • Facebook Classic
  • Twitter Classic
  • Google Classic
bottom of page